มีการรายงานล่าสุดมาว่า Facebook นั้นมีแผนการที่จะทำการเปลี่ยนชื่อ (Rebrand) บริษัท โดยมีแรงจูงใจมากจากความสนใจใน Metaverse มีการรายงานมาว่า Facebook เตรียมการจะประกาศถึงการเปลี่ยนชื่อ (Rebrand) บริษัท ภายในงานสัมมนาประจำปี Connect ที่จะจัดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า อ้างอิงจากการรายงานของ The Verge แล้วนั้น การดำเนินการดังกล่าวนั้นเป็นในแนวทางเดียวกับที่ Google ได้พลันตัวเองมาเป็น Alphabet
ซึ่งก็เพื่อที่จะครอบคลุมบรรดาธุรกิจต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเวลานี้ของ Facebook ไม่ว่าจะเป็น Oculus VR, Instagram และ WhatsApp เป็นต้น
นอกเหนือไปจากบรรดาธุรกิจต่าง ๆ แล้วนั้น ชื่อใหม่ที่ว่านี้ (ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ตาม) จะยังคงเป็นการครอบคลุมไปถึงการเพิ่มขึ้นของความสนใจของ Mark Zuckerberg ในการสร้าง “Metaverse” – โลกเสมือน ;แนวความคิดถึงอนาคตของอินเตอร์เน็ตที่มีการใช้งานพื้นที่สังคมร่วมกัน แบบที่ปรากฏใน The Matrix และ Ready Player One
อ้างอิงจากการรายงานของ CNN, บริษัทนั้นได้ดำเนินการจ้างพนักงานจำนวน 10,000 คนในภูมิภาคยุโรปเพื่อที่จะทำการสร้างแผนการ Metaverse ขึ้นมา และในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา Zuckerberg ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ว่า เขาคิดว่าบริษัทนั้นจะสามารถทำการเปลี่ยนผ่านจากบริษัททางด้านสื่อสังคมเป็นหลักมาสู่บริษัททางด้าน Metaverse อย่างมีประสิทธิภาพ”
โดยคำว่า Metaverse นี้นั้นถือว่าเป็นอะไรที่มีความกว้างขวางมาก แต่ในเชิงใจความหลักแล้วนั้นก็คือพื้นที่สังคมที่มีการใช้งานร่วมกัน ผ่านการใช้งานอุปกรณ์อย่าง VR, AR และอินเตอร์เน็ต ซึ่งมันนั้นก็มีต้นกำเนิดมาจากนิยายแนวดิสโทเปีย (dystopian fiction) และเป็นคำที่มักใช้กันอย่างแพร่หลาย
นอกไปจาก Metaverse แล้วนั้น การดำเนินการเปลี่ยนชื่อบริษัทอาจจะเป็นอะไรที่ฉลาดไม่ใช่น้อย เนื่องจากในเวลานี้ Facebook ในฐานะชื่อแบรนด์เองก็ถือว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ นับตั้งแต่กรณี Cambridge Analytica ไปจนถึงการเปิดโปงถึงความล้มเหลวในการปกป้องผู้ใช้งาน และสังคมจากผลกระทบในแง่ลบของแพลตฟอร์ม ทำให้การเปลี่ยนชื่อนั้นถือว่าเป็นการดีที่จะตั้งต้นใหม่ในระดับหนึ่ง
ใครที่เคยใช้กล้อง DSLR ถ่ายภาพรถวิ่ง หรือวัตถุอะไรก็ตามที่มีความรวดเร็วจะเข้าใจดีว่า จำเป็นต้องใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำแล้วแพลนกล้องให้สอดคล้องกับทิศทางของวัตถุที่เราจะถ่าย ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ แล้วบนมือถือ Pixel 6 / Pro
สามารถถ่ายวิดีโอที่ระดับความชัดสูงสุด 4K 60fps (ความละเอียด 498 ล้าน พิกเซล) พร้อมโหมด HDR+ ปรับวิดีโอให้คมชัดด้วยการประมวลผลจากชิป Tensor ได้ทันที
Microsoft ยังไม่หยุดควบรวม สตูดิโอเกมส์ ต่าง ๆ ในเวลานี้
Phil Spencer รอง ปธ. ฝ่ายเกมส์ (Gaming) ของ Microsoft ได้เปิดเผยว่า ในเวลานี้บริษัทยังไม่หยุดที่จะซื้อ/ควบรวม สตูดิโอเกมส์ ต่าง ๆ Phil Spencer รองประธานฝ่ายเกมส์ (Gaming) ของ Microsoft ได้ทำการเปิดเผยภายในงาน Wall Street Journal Tech Live (ที่เรียบเรียงโดย VGC) ไว้ประมาณว่า ทางบริษัทยังไม่เรียบร้อยในการซื้อ/ควบรวม สตูดิโอเกมส์ ต่าง ๆ ในเวลานี้
เขากล่าวว่า “ผมภูมิใจที่ผู้พัฒนาบางรายนั้น ตัดสินใจที่จะเลือกมาเป็นส่วนหนึ่งของ Xbox” พร้อมทั้งอธิบายถึงจำนวนของสตูดิโอที่ทาง Xbox นั้นได้ควบรวมเข้ามาไว้ ซึ่งสตูดิโอเหล่านี้ต่างมีความสัมพันธ์อันดีกับทาง Microsoft มาเป็นเวลานานแล้ว
Spencer ได้กล่าวต่อไปว่า “พวกเรานั้นเสนอในเรื่องความมั่นคงทางการเงินให้แก่พวกเขา” “มันไม่ใช่ความสำเร็จในเกมส์ต่อ ๆ ไปของพวกเขาเท่านั้น ผมต้องการที่จะมอบความสามารถทางการสร้างสรรค์ที่มากขึ้น, กรอบเวลาที่นานขึ้นเมื่อพวกเขาต้องการในสร้างผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา”
Spencer ได้ย้ำว่า Xbox Game Studios ไม่ได้ต่อต้านต่อการนำเข้าสตูดิโอเกมส์อื่น ๆ มาเข้าร่วม ถ้าพวกเขาพิจารณาแล้วว่าสตูดิโอดังกล่าวนั้นสามารถเข้าร่วมกันได้ และมีความสอดคล้องกับทาง Xbox เป็นอย่างดี “พวกเรานั้นมักจะมองหาผู้คน และทีมงานที่พวกเราคิดว่าจะเหมาะสมกับแผนการของเรา” “ดังนั้นแล้วพวกเราจึงยังไม่หยุดเพียงแค่นี้”
“มันไม่มีการจำกัดจำนวน โดยมันไม่มีกรอบเวลาที่กำหนดว่าผมนั้นจะออกไปหาสตูดิโอต่าง ๆ แต่ถ้าพวกเราพบเจอกับสตูดิโอที่มองว่าเข้ากันได้ด้วยดีแล้วนั้น เราจะทำการเปิดเผยข้อมูลถึงการดำเนินการทั้งจากฝั่งเรา และฝั่งพวกเขา ซึ่งหากพวกเราทั้งสองฝ่ายนั้นสามารถที่จะไปกันได้ด้วยดีนั้น ก็แน่นอนแล้วว่าพวกเขาจะมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา”
โดยในเวลานี้ Xbox Game Studios ได้ทำการควบรวมสตูดิโอเกมส์เป็นจำนวน 23 สตูดิโอด้วยกัน ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมานั้นก็ได้ทำการควบรวมกลุ่มกิจการ ZeniMax Media ที่เพิ่มจำนวนสตูดิโอได้เป็นจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Bethesda Game Studios, id Software, และ Arkane เป็นต้น ทาง Microsoft ได้กล่าวว่าจะไม่มีการเข้าแทรกแซงการทำงาน และปล่อยให้สตูดิโอเหล่านี้รักษาการทำงานของตนเองต่อไป
ซึ่งเขาก็ไว้ประมาณว่า มันมีทีมงานที่น่ามหัศจรรย์อยู่ ทางพวกเขานั้นต้องการที่รับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาสร้างสรรค์ และมองเห็น ที่ซึ่งจะเป็นการท้าทายตัวพวกเราเองในฐานะของแพลตฟอร์มว่า พวกเรานั้นสามารถที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดให้ได้หรือไม่ ซึ่งก็จะเป็นการส่งความท้าทายกลับไปว่าพวกเรานั้นจะสามารถผลงานที่ดีสุดตอบกลับมาได้หรือเปล่า
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป